แบบบ้านคลาสสิค (Classic)
ในบรรดาแบบบ้านที่พบเห็นโดยทั่วไป บ้านแบบคลาสสิค (Classic) มักจะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับบรรดาผู้ที่พอจะมีฐานะ พ่อค้า คหบดี หรือบุคคลมีหน้ามีตาในสังคมระดับสูง เนื่องจากดูแล้วจะเป็นบ้านหลังใหญ่ บ่งบอกถึงฐานะ มีความหรูหราคล้ายกับปราสาท ราชวังในต่างประเทศ หรือในเทพนิยายที่เราเคยเห็นในนิทาน
บ้านแบบคลาสสิคเป็นคำกลางๆ ที่เรียกรวมของยุคสมัยต่างๆ ไว้ด้วยกัน ซึ่งหมายถึง ยุคกรีก-โรมัน (Greece-Roman) , เรอเนซองส์ (Renaissance), โบซาร์ตส (Beaux Arts) , หลุยส์ (Louise) , โพสต์โมเดิร์น (Post Modern) , นีโอคลาสสิค (Neo-Classic) , โมเดิร์น คลาสสิค (Modern Classic) ไปจนถึงคอมเทมโพรารีคลาสสิค (Contemporary Classic) ซึ่งแบบบ้านนี้จะมีองค์ประกอบที่สำคัญหลักที่เห็นได้ชัด ได้แก่ เสากลมที่ประดับหัวเสาและฐานเสาตั้งอยู่ตามส่วนต่างๆ ของบ้าน โดยทั่วไปจะมีหัวเสาอยู่ 3 แบบ คือ ดอริค, ไอโอนิค และ คอเรียนเทียล โดยแต่ละแบบจะมีรายละเอียดมากน้อยแตกต่างกันไป นอกจากหัวเสาแล้ว งานบัวปูนปั้นก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญของงานคลาสสิค งานบัวปูนปั้นจะนิยมประดับตามผนังตอนบนและล่าง หรือฐานอาคาร ซุ้มประตู-หน้าต่างรวมไปถึงราวระเบียงต่างๆ รอบบ้าน
ความสวยงามของบ้านแบบนี้อยู่ที่เรื่องของสัดส่วนที่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นขนาดของเสาและหัวเสา ที่สัมพันธ์กับความสูงของบ้าน ขนาดของหน้าจั่วกับความกว้างของมุขหน้า หรือขนาดของลวดบัวปูนปั้นที่ต้องสอดคล้องกับขนาดของบ้าน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่สถาปนิกต้องศึกษาค้นคว้า และหาข้อมูลที่ถูกต้องมาทำการออกแบบ เพราะหากใช้งานเสาประดับหรือบัวปูนปั้นที่มีขายทั่วไปจะเห็นว่าสัดส่วนต่างๆ ไม่ค่อยถูกำต้องตามหลักสถาปัตยกรรม หรือหากใส่รายละเอียดลงไปเยอะ เพราะอยากโชว์ นอกจากจะทำให้ดูบ้านแบบนี้ไม่สวยแล้วยังดูรกหูรกตาไปหมด ดังนั้น หากใครชอบงานบ้านแบบคลาสสิคจริงๆ คงต้องหาคนที่มีประสบการณ์และเข้าใจงานสไตล์นี้มาทำ เพื่อที่จะได้งานที่สวยและมีความเป็นอมตะตลอดไป
ที่มา : หนังสือ NEW HOME DESIGN & 41 Bestsellers Vol.4