บ้านอยู่สบาย Relaxing Home

บ้านอยู่สบาย Relaxing Home

“บ้าน” เปรียบเสมือนที่พักใจ เป็นที่ที่รู้สึกปลอดภัยอบอุ่นใจ ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักความอบอุ่นของคนในครอบครัว การรังสรรค์บ้าน เพื่อเพิ่มบรรยากาศอบอุ่นผ่อนคลาย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้บ้านน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างเสริมให้เกิดขึ้นได้ทุกบ้าน โดยขอแนะนำ 5 แนวความคิดหลัก ที่ บจก.ท็อป เอสทีฯ รวมถึงบริษัทฯรับสร้างบ้านทั่วไปใช้ คือ
อบอุ่นด้วยวัสดุ การเลือกใช้วัสดุตกแต่งเพื่อให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นนั้น มีวัสดุให้เลือกหลากหลาย ซึ่ง “ไม้” จัดอยู่ในตัวเลือกอันดับต้นๆที่คนนึกถึง และพื้นไม้ก็ให้ความอบอุ่นมากกว่าพื้นกระเบื้อง ทั้งในแง่ของความรู้สึกและผิวสัมผัส โดย หิน หรือ ไม้ ที่มีลวดลายตามธรรมชาตินั้นให้ความรู้สึกคุ้นเคยมากกว่าวัสดุสังเคราะห์ วัสดุที่มีลวดลายนั้นสามารถทำให้ห้องดูอบอุ่นและเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ความหลากหลายของพื้นผิวสัมผัสวัสดุยังช่วยลดความรู้สึกเป็นทางการลงได้ด้วย

นำความอบอุ่นจากภายนอกสู่ภายใน แสงแดด ต้นไม้ ลม คือสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ไว้ ทำให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความรู้สึกผ่อนคลายทั้งทางกายและใจ การออกแบบโดยสร้างความต่อเนื่องระหว่างภายนอกกับภายในที่ดีจึงควรคำนึงถึงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์เพื่อตอบสนองพฤติกรรมการใช้งานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น แบบบ้าน 2 ชั้น,แบบบ้าน 3 ชั้น ที่บริษัทฯรับสร้างบ้าน ได้ออกแบบส่วนใหญ่นั้น จะกำหนดให้พื้นที่ที่เชื่อมโยงกับภายนอกโดยตรง เป็นพื้นที่พักผ่อน เช่น นอน นั่งเล่น อ่านหนังสือ หรือรับประทานอาหาร โดยการเจาะช่องหน้าต่าง ประตูเปิดโล่ง กระจกใส ในตำแหน่งที่เหมาะสม นอกจากจะเป็นการเปิดรับธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านแล้ว ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ด้วย

พื้นที่เปิดโล่งที่ปรับเปลี่ยนได้ การจัดพื้นที่แบบเปิดโล่งเพื่อเชื่อมต่อแต่ละพื้นที่การใช้งาน นอกจากจะช่วยปรับเปลี่ยนพื้นที่เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตแบบคนรุ่นใหม่ ที่บางครั้งต้องทำหลายๆอย่างในเวลาเดียวกันแล้ว ยังช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายได้ด้วย จะเห็นได้ว่าบริษัทฯรับสร้างบ้านทั่วไป(รวมถึง บจก.ท็อป เอสทีฯ เองด้วย) จะมีการออกแบบบ้าน ทั้งแบบบ้าน 2 ชั้น,แบบบ้าน 3 ชั้น ให้สอดรับกับยุคสมัยใหม่ โดยการให้มีพื้นที่โถงเปิดโล่งและพื้นที่ใช้สอยเชื่อมต่อถึงกันเป็นสำคัญ ทั้งนี้ บจก.ท็อป เอสทีฯ มีอีกเทคนิคแนะนำ คือ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างง่าย ไม่เน้นการใช้งานเฉพาะเจาะจงอย่างหนึ่งอย่างใด ก็จะยิ่งช่วยสร้างความเป็นกันเองไม่เป็นทางการเกินไปให้กับพื้นที่ในบ้านอีกด้วย

แสงสว่างสร้างความอบอุ่น แสงสีนวลจากหลอดไฟนอกจะสบายตาแล้ว ยังสร้างความอบอุ่นให้กับบ้านได้ด้วย การประยุกต์ใช้แสงสว่างเพื่อให้เกิดความผ่อนคลายควรใช้แสงจากหลายๆแหล่ง เช่น ดวงโคมบนฝ้า-เพดานใช้เพื่อความสว่างโดยรวม โคมไฟตั้งโต๊ะ,โคมไฟห้อย,โคมไฟประดับบนฝาผนัง ที่อยู่ตามจุดต่างๆภายในบ้าน นอกจากจะเป็นของประดับสวยงามแล้ว ยังช่วยเพิ่มมิติให้กับบ้าน ให้ดูไม่จืดชืดเกินไป บจก.ท็อป เอสทีฯ ขอแนะนำ การเลือกใช้แสงสว่างที่ไม่เห็นจากแหล่งกำเนิดแสงโดยตรง เช่น ไฟหลืบ ไฟจากดวงโคมไฟตั้งโต๊ะ จะช่วยถนอมสายตาและสร้างความรู้สึกนุ่มนวลให้กับพื้นที่มากกว่า เห็นแสงจากแหล่งกำเนิดแสงโดยตรง

อบอุ่นด้วยโทนสีร้อน ผ่อนคลายด้วยโทนสีเย็น สีมีอิทธิพลต่อความรู้สึกเพราะถ่ายทอดผ่านการมองเห็น สีโทนร้อน สร้างความอบอุ่นและมีชีวิตชีวา สีอ่อน เช่น สีครีม เบจ เอิร์ธโทน ประยุกต์ใช้ได้เกือบทุกพื้นที่ แต่มีสีโทนร้อนบางกลุ่มสีต้องคำนึงถึงปริมาณและเฉดสีที่จะนำไปใช้ด้วย เช่น สีส้ม สีส้มลูกพีช ช่วยให้ห้องดูสดใส เหมาะกับการทาในห้องนั่งเล่นหรือห้องครัว ในขณะที่สีส้มผสมน้ำตาล ให้ความรู้สึกอบอุ่นหนักแน่นแบบผู้ใหญ่ จึงเหมาะกับห้องทำงานห้องอ่านหนังสือ เป็นต้น สีโทนเย็น เช่น สีม่วง ฟ้า เขียว ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา มากกว่าให้ความรู้สึกอบอุ่น บจก.ท็อป เอสทีฯ ขอยกตัวย่าง การใช้โทนสีอ่อน เช่น สีฟ้าอ่อน ทาลงบนผนังส่วนใหญ่ ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ สีโทนร้อนเฉดสีเข้ม เช่น สีเหลืองมัสตาร์ด และผสมผสานเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติม ด้วยสีโทนร้อนและเย็น ก็จะได้ทั้งความอบอุ่นและผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน

CREDIT BY, หนังสือ NEW HOME DESIGN VOL.8 2014, หน้า 014-015, เรื่องโดย : ดวงกมล ลิ่มวงศ์
คัดลอกและดัดแปลงบทความเพิ่มเติม โดย บริษัท ท็อป เอสที บิวเดอร์ จำกัด