Search Keyword

NEWS & PROMOTIONS

สมาคมฯ รับสร้างบ้านชี้ดอกเบี้ยขึ้นไม่กระทบธุรกิจ

ส.รับสร้างบ้านชี้ดอกเบี้ยขึ้นไม่กระทบธุรกิจ
เผยยังมีลูกค้าต้องการสร้างเอง 40% ในอีก 6 เดือน
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน มั่นใจธุรกิจขยายตัวสูงกว่า 10% ปีนี้หลังพบปริมาณผู้ที่ต้องการปลูกสร้างเอง 40% และมีแผนสร้างบ้านในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยในจำนวนนี้มีมากกว่า 50% ใช้เงินสดสร้างบ้าน
 
     นายวิบูล จันทรดิลกรัตน์ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า สมาคมประเมินภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในปีนี้คาดการณ์เติบโตในระดับ 10% โดยมองว่าตลาดยังมีกำลังซื้อ และมีความต้องการต่อเนื่องจากนี้ไปจนถึงปีหน้า ซึ่งพบว่าต้องการปลูกสร้างบ้านอยู่ในเกณฑ์สูง เห็นได้จากยอดจองสร้างบ้าน ผ่านงานรับสร้างบ้าน 2010 เมื่อวันที่ 1-22 ส.ค. ที่ผ่านมา สร้างยอดขายรวมกว่า 2200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

     ทั้งนี้ ผลสำรวจพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่หมุนเวียนเข้าชมงาน ระบุว่า มีความต้องการปลูกสร้างในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ยังคงมีปริมาณที่สูงเกือบ 40 % ของผู้ที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด และประมาณ 52% ของผู้ที่ตอบแบบสอบถาม ไม่ได้มีความต้องการขอสินเชื่อในการสร้างบ้าน สะท้อนให้เห็นว่า ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นขณะนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อตลาดรับสร้างบ้านมากนัก

     "อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ธุรกิจได้รับผลกระทบจากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองทำใหยอดขายโโยรวมค่อนข้างน้อย แต่ผลของการจัดงานทั้งยอดขายและข้อมูลที่ได้จากการตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมงาน รวมกับสัญญาณบวกทางเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังนี้ ทำให้มั่นใจว่าตลาดยังสนใจที่จะว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้านบนที่ดิน ซึ่งสะท้อนได้ว่าความต้อวงการที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่อย่างสม่ำเสมอ" นายวิบูล กล่าวและว่า

     ปัจจุบัน บ้านระดับราคา 2.5 -5 ล้านบาท ได้รับความนิยมมากที่สุด และมีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา รองลงมา คือ บ้านที่มีระดับราคาต่ำราคา 2.5 ล้านบาท แต่ความต้องการบ้านในกลุ่มนี้กลับมีสัดส่วนที่ลดลงในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา
       คุณวิบูล จันทรดิลกรัตน์ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวต่อว่า สำหรับบ้านในระดับราคาที่สูงกว่า 20 ล้านบาท แม้จะเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนน้อยที่สุดในตลาด แต่กลับพบว่าความต้องการในกลุ่มนี้มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สะท้อนว่ากำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าระดับบนเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ มีความต้องการซื้อใน 6 เดือนหรือ 1 ปีข้างหน้า เป็นโอกาสทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการที่มีความพร้อมรองรับความต้องการในสินค้า และบริการของลูกค้านั้นๆ
     ฺที่มา : Business Bi-Weekly ฉบับวันที่ 5-19 กันยายน 2553
back to news & promotions
  1. บริษัท ท็อป เอส ที บิวเดอร์ จำกัด
  2. A MEMBER OF สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน Home Builder ASSOCIATION
  3. บริษัท อะไลฟ์เฮาส์ จำกัด ALIVE HOUSE CO.,LTD