Matching อีกก้าวย่างของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน
|
|||
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเมื่อดูจากบริษัทที่มีการเข้าร่วมงานทั้งหมด 69 บริษัท จากสมาชิกสมาคมฯ ทั้งหมด 93 บริษัท หรือคิดเป็น 74% นับว่าครอบคลุมทุกธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมด ประกอบด้วยบริษัทที่เป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสาัมัญ 24 บริษัท บริษัทที่เป็นสมาชิกวิสามัญประเภท ก. จำนวน 9 บริษัท สมาชิกวิสามัญประเภท ข. อีก 36 บริษัท และในจำนวนบริษัทที่เข้าร่วมงานทั้งหมดนี้ ได้มีการส่งตัวแทนของบริษัททั้งที่เป็นระดับพนักงานและระดับผู้บริหารที่สามารถตัดสินใจเจรจาเงื่อนไข ตกลงราคา และทำสัญญากันได้ถึง 149 ท่าน การจัดงานครั้งนี้เกิดจากแรงผลักดันของฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ซึ่งมี นายวิสิฐษ์ โมไนยพงศ์ เป็นอุปนายก นายพรชัย เติมพิทยาไพสิฐ และ นายวงศ์รัตน์ เจริญวิริยะภาพ เป็นกรรมการ ที่ต้องการใ้ห้สมาชิกที่มีทั้งประเภทสามัญ ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน และประเภทสมาชิกวิสามัญประเภท ก. และ ข. ซึ่งมีทั้งที่เป็นบริษัทรับสร้างบ้าน ผู้ผลิต และผู้ค้าประเภทวัสดุก่อสร้าง และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการรับสร้างบ้านได้รู้จักและมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ิชิดกันมากขึ้น ซึ่งเมื่อเกิดความใกล้ชิดกันแล้วจะก่อให้เกิดการร่วมไม้ร่วมมือกันในแง่ของการดำเนินธุรกิจ เช่น การสั่งซื้อวัสดุในการก่อสร้างจากบริษัทที่เป็นสมาชิกด้วยกันเอง แทนที่จะไปสั่งซื้อจากบริษัทอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก โดยอาจจะมีการให้ส่วนลดกันในราคาพิเศษในฐานะสมาชิกด้วยกัน ความจริงแผนการจัดงาน Matching นายวิบูล จันทรดิลกรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัทสหสุธา จำกัด ในฐานะ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านบอกว่า ควรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ถ้าไม่มีเรื่องการเมืองมาเป็นตัวสกัด เพราะเมื่อหารือกันถึงเรื่องการจัดงาน Matching ทั้งสมาชิกที่เป็นบริษัทรับสร้างบ้านและสมาชิกวิสามัญแล้วต่างก็เห็นด้วย เนื่องจากจะช่วยทำให้ต้นทุนในการก่อสร้างถูกลง ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีใน 2 ด้านด้วยกันคือ ด้านแรกช่วยทำให้ผู้ประกอบการได้กำไรมากขึ้น เพราะซื้อวัสดุก่อสร้างได้ในราคาถูกลง อีกด้านหากผู้ประกอบการเห็นว่ากำไรที่ได้อยู่นั้นพอแล้ว ก็จะนำกำไรที่ได้นั้นคืนให้กับลูกค้า ลูกค้าก็จะได้บ้านในราคาที่ถูกลง ดังนั้นงานนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่มีการจับคู่ภาคธุรกิจรับสร้างบ้าน และถ้าประสบผลสำเร็จก็จะมีการจัดงานแบบนี้อีกเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะจากคำพูดของนายวิบูลที่ว่า " เราอยากสร้างเวทีกลางให้กับสมาชิกได้มาแลกเปลี่ยน และทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งการเริ่มต้นในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีมีผู้เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมากเกินความคาดหมายที่เราได้ตั้งเป้าไว้ ซึ่งในครั้งหน้าเราก็มีแนวคิดที่จะขยายการจัดกิจกรรมรูปแบบนี้ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น คาดว่ากิจกรรมนี้น่าจะมีดีลทางธุรกิจเกิดขึ้นหลายดีล โดยเราต้องการให้บรรยากาศของงานเป็นเหมือนงานแสดงสินค้าและการเจรจาธุรกิจไปพร้อมๆ กัน ซึ่งนอกจากจะได้ประโยชน์ทั้งบริษัทรับสร้างบ้าน กับผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายและผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องแล้ว ในอนาคตคาดว่าหากกิจกรรมนี้ประสบความสำเร็จ จำนวนผู้เข้าร่วมก็จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สมาคมฯ สามารถขยายฐานสมาชิกออกไปในวงกว้าง และผลดีก็คือ จะเกิดความหลากหลายในสินค้าและบริการของสมาชิกด้วยกันเอง และนำมาซึ่งการซื้อขายภายในกลุ่มสมาชิกโดยในอนาคต สมาคมฯ คาดว่างานดังกล่าวจะกลายเป็นงานที่มีการอัพเดทนวัตกรรมของสินค้า และบริการรูปแบบใหม่ๆ และเป็นแหล่งที่รวมสินค้าและบริการที่มีความสมบูรณ์แบบงานหนึ่งเช่นกัน "อีกทั้งเมื่อดูจากจำนวนการจับคู่โดยมีการเซ็น MOU ร่วมกันแล้วมีถึง 7 คู่ด้วยกัน ประกอบด้วย บริษัท มีนบุรีรับสร้างบ้าน จำกัด เซ็นสัญญาการใช้โครงหลังคาปลอดสนิม จากบริษัท เฮ้าส์ เฟรนด์ลี่ โปรดักส์ จำกัด จำนวน 10 หลัง คิดเป็นมูลค่า 1,500,000 บาท หรือเท่ากับหลังละ 150,000 บาท บริษัท สหสุธา จำกัด เซ็นสัญญาใช้ระบบกำจัดปลวก จาก บริษัท ศิริเจริญ โฮม เซอร์วิส จำกัด จำนวน 10 หลัง คิดเป็นมูลค่า 1,000,000 บาท บริษัท ทรี.ดี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด เซ็นสัญญาซื้อผลิตภัณฑ์ไม้จากบริษัท ธนาภัณฑ์ค้าไม้ จำกัด จำนวน 10 หลัง คิดเป็นมูลค่า 1,000,000 บาท บริษัท โฮมสแตนดาร์ด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เซ็นสัญญา ซื้อพื้นไม้ลามิเนท จากบริษัท เคเอ พาวเวอร์ จำกัด จำนวน 10 หลัง คิดเป็นมูลค่า 2,500,000 บาท บริษัท มาสเตอร์แปลน 101 จำกัด เซ็นสัญญาซื้อประตูหน้าต่าง UPVC จากบริษัท เกอฮาวส์ ลิฟวิ่ง จำกัด จำนวน 10 หลัง คิดเป็นมูลค่า 3,000,000 บาท บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด เซ็นสัญญาซื้อผลิตภัณฑ์ไม้จาก สมชายการช่าง จำนวน 10 หลัง คิดเป็นมูลค่า 2,500,000 บาท และบริษัท วินด์มิลล์ อาร์คิเท็ค จำกัด เซ็นสัญญา ซื้อผลิตภัณฑ์สีจากบริษัท ทีโอเอ เพ้นท์(ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 10 หลัง คิดเป็นมูลค่า 1,000,000 บาท ซึ่งเมื่อรวมการเซ็นสัญญาซื้อขายในงาน Matching ครั้งที่ 1 ทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 12,500,000 ล้านบาท นอกจากงาน Matching แล้ว สมาคมฯ ยังมีแผนที่จะรวมกลุ่มกันระหว่างสมาชิกเพื่อจัดซื้อวัสดุก่อสร้างล๊อตใหญ่เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในเรื่องราคา โดยเบื้องต้นจะเลือกวัสดุที่จำเป็นต้องใช้ในการก่อสร้างบ้านอย่างแน่นอนแบบชนิดขาดไม่ได้นั่นก็คือ คอนกรีตสำเร็จรูป และกระเบื้องหลังคา โดยให้สมาชิกแต่ละรายแสดงเจตจำนงที่จะเข้าร่วมและจำนวนที่ต้องการเข้ามายังสมาคมฯ ซึ่งในระยะแรกสมาชิกไม่จำเป็นต้องแจ้งจำนวนที่ต้องการใช้ทั้งหมด เอาแค่ครึ่งหนึ่งก่อนก็ได้ พอเห็นผลงานด้านราคาและบริการที่ได้รับแล้วค่อยเพิ่มเติมกันภายหลังได้ รวมถึงสมาชิกรายอื่ีนๆ ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมในช่วงแรกด้วย นี่เป็นอีกก้าวหนึ่งของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านที่จะผนึกกำลังกันเืพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางแข่งขันกันเองระหว่างบริษัทรับสร้างบ้าน และผู้ที่ยังไม่ได้เรียกขานตัวเองว่าเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน โดยยังพอใจอยู่กับคำว่าผู้รับเหมา ซึ่งยังสามารถกุมตลาดรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ไว้ในมือ |