เทรนด์สร้างบ้านใหม่เลขที่เดิม 3 ชั้นมาแรง – ที่ดินมูลค่าเพิ่ม

เทรนด์สร้างบ้านใหม่เลขที่เดิม
3 ชั้นมาแรง – ที่ดินมูลค่าเพิ่ม

งาน "รับสร้างบ้าน 2010" โกยยอดรวม 2,200 ล้านบาท ชี้ บ้านกลุ่มราคา 2.5-5 ล้านบาท ครองแชมป์ได้รับความนิยม สูงสุด 41.83% คาดการณ์ความต้องการปลูกสร้างบ้านไตรมาส 3-4 น่าปรับตัวดีขึ้น มั่นใจตลาดรวมรับสร้างบ้านปีนี้ยังเติบโตได้ 10% ระบุเทรนด์บ้านใหม่ทดแทน บ้านเก่าจะนิยมปลูก 3 ชั้นมากขึ้น เพราะผู้อาศัยต้องการความเป็นส่วนตัว และที่ดิที่มูลค่าเพิ่มขึ้น
นายวิบูล จันทรดิลกรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท สหสุธา จำกัด ในฐานะนายก สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า การจัดงานรับสร้างบ้าน 2010 ในระหว่างวันที่ 18-22 สิงหาคม 2553 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถทำยอด ขายบ้านได้รวม 2,200 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นยอดขาย ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2553 รวมประมาณ 1,000 ล้านบาท และ เป็นยอดขายภายในงานอีก 1,200 ล้านบาท เทียบกับปี 2009 ที่มียอดขายรวม 2,400 ล้านบาท

โดยแบ่งเป็นยอดจองก่อนงาน 1,400 ล้านบาท และ ยอดจองภายในงานอีก 1,000 ล้านบาท ซึ่งจากตัวเลขจะเห็นได้ว่า ในปี 2553
ยอดจองสร้างบ้านในงานมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น แต่ในช่วงไตร มาสที่ 2 ประเทศไทยประสบกับปัญหาทางการเมือง ทำให้ยอดจองก่อนงาน ในปีนี้น้อยกว่าปีที่แล้ว แต่โดยรวมแล้วทางสมาคมค่อนข้างพอใจกับยอดขายดังกล่าว และคาดว่าผู้บริโภคเริ่มที่จะกลับเข้ามาตัดสินใจปลูกบ้านกันมากขึ้น ใน ช่วงไตรมาสที่ 3-4 ของปี 2553

     "จากเหตุการณ์ทางการเมืองที่ร้อนแรงในช่วงไตรมาส 2 ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจรับสร้างบ้านพอสมควร คือผู้บริโภคมีความระมัดระวัง ในการสร้างบ้านใหม่มากขึ้น แต่เมื่อมีการจัดงานดังกล่าวขึ้นมา สุดท้ายผู้บริโภคก็ต้องตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายมาใช้บริการมียอดขาย 1,200 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 20% โดยกลุ่มบริษัท ซีคอน จำกัด มียอดขายสูงสุดกว่า 300 ล้านบาท อีกทั้งปีนี้ยังเป็นปีที่ผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน มาร่วมออกบูธมากที่สุดรวม 38 บริษัท" นายวิบูล กล่าวและว่า

   ส่วนยอดขายในงานรับสร้างบ้านจะแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ เนื่องจากต้องการช่วยสมาชิกกระตุ้น ตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง จึงเปิดโอกาสให้มีการนำยอดขายตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2553 มาแสดงเพื่อร่วมลุ้นชิงรางวัลใหญ่ภายในงานได้ และมียอดจองใน แต่ละปีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในปีนี้การเมืองมีปัญหาพอสมควรในช่วงไตรมาสที่ 2 เลย ทำให้ยอดก่อนงานลดลง แต่ก็ยังดีที่ยอด ขายภายใน งานเติบโตเพิ่มขึ้น

   อย่างไรก็ตามจากการเก็บสถิติของฝ่ายวิชาการ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน พบว่าบ้านในกลุ่มราคา 2.5-5 ล้านบาท
มีสัดส่วนการปลูกสร้างมากที่สุด คื อ 41.83% ทั้งนี้เพราะผู้บริโภคเริ่มมีความต้องการความหรูหราและสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น ประกอบกับ ผู้ประกอบการมีการ ขยับมาพัฒนาบ้านราคาที่แพงมากขึ้น เพราะแบรนด์เริ่มเป็นที่น่าเชื่อถือ รองลงมาคือบ้านในกลุ่ม ราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท ที่ 34% และบ้านในราคา 5-10 ล้านบาท 17.23% ที่เหลือเป็นกลุ่มราคา 10-20 ล้านบาท
และ 20 ล้านบาทขึ้นไป

   ซึ่งสถิติดังกล่าวถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับงานรับสร้างบ้าน 2009 โดยปีนี้มีการลดราคาสูงสุดถึง 10 % หากปี 2554 สถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองดีขึ้น คงจะไม่เห็นการลดราคารับสร้างบ้านสูงขนาดนี้ แต่ผู้ประกอบการจะเลื่อนระดับ มาสร้างบ้านแพงมากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการที่เพิ่มเข้ามาในตลาดยังพัฒนาบ้านระดับราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาทอยู่ ดังนั้นบ้านระดับราคาดังกล่าวจึงยังไม่หายไปจากตลาด นายวิบูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนการสำรวจ พฤติกรรมของผู้บริโภค ที่เข้าชมงานพบว่าต้องการปลูกบ้านสร้างบ้านในช่วงระยะเวลามากว่า 6 เดือน ยังคงมีปริมาณที่สูงเกือบ 40% รองลงมาคือภายในระยะเวลา 6 เดือน และพร้อมสร้างทันที อยู่ในสัดส่วนที่เท่ากันคือ 13 % โดยบ้านระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ยังถือเป็นบ้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุด สอดคล้องกับยอดจองปลูกสร้างบ้านภายในงาน

   สำหรับภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในปี 2553 ทางสมาคมยังประเมินว่าน่าจะยังเติบโต ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือประมาณ 10 % เนื่องจากคาดว่ายอดขายหลังงานรับ สร้างบ้าน 2010 จะยังมีกำลังซื้อต่อเนื่องออกไปอีกพอสมควร หากผู้บริโภคไม่ตัดสินใจสร้างบ้านในช่วง 1-2 เดือนนี้ เชื่อว่าในปลายปีนี้ราคาบ้านจะปรับขึ้นอีก 3-5% อย่างแน่นอน คาดว่าจะทำให้ยอดขายรวมในปลายปี 2553 เพิ่มขึ้นอีก 4,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ 12,000 ล้านบาท โดย 3 ไตรมาสสามารถทำยอดขายรวมได้ 8000 ล้านบาท ประกอบกับผลของการสำรวจ และวิจัยที่พบว่า ความต้องการปลูกสร้างบ้านภายในปี 2553-2554 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่สูงด้วยเช่นกัน

   "สำหรับตลาดบ้านใหม่ที่ปลูกทดแทนบ้านเดิม เลขที่เดิมนั้นเทรนด์ในอนาคตจะมีการปลูกแบบ 3 ชั้นมากขึ้น เนื่องจากเป็นครอบครัวใหญ่ ผู้อยู่อาศัยต่างต้องการพื้นที่ที่มี ความเป็นส่วนตัวและมีดินที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น สำหรับแผน งานปี 2554 นั้นสมาคมได้วางแผนที่จะจัดกิจกรรมออกงาน รับสร้างบ้านจำนวน 3 งานประกอบด้วย งาน โฮมบิวเตอร์ โฟกัส 2011 ณ เซ็นทรัลลาดพร้าว, การออกบูธในงาน สถาปนิก'11 และงานรับสร้างบ้าน 2011" นายวิบูล กล่าว

   ด้าน นายวิสิฐษ์ โมไนยพงศ์ อุปนายกฝ่ายพัฒนาธุรกิจ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านกล่าวถึงความคืบหน้าเรื่อง การทำแมทชิ่งหรือการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการรับสร้างบ้านในการ ต่อรองราคาวัสดุก่อสร้างนั้นพบว่าในเบื้องต้นสามารถ ทำคำสั่งซื้อได้ถึงกว่า 100 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ เป็นวัสดุปลีกย่อย เช่น การกำจัดปลวก ไม้พื้น กรอบประตู หน้าต่าง เป็นต้น และขณะนี้ทางสมาคมกำลังรวบรวมราย ชื่อและคำสั่งซื้อในส่วนของปูนซีเมนต ์และกระเบื้องหลังคาอยู่ว่ามีปริมาณเท่าไหร่ เพื่อนำไปต่อรองราคากับผู้ประกอบการ วัสดุก่อสร้างโดยดูว่าใครจะให้เงื่อนไขที่ดีที่สุด ทั้งส่วนลดและงวดการชำระเงิน โดยหากทำสำเร็จก็จะทำให้ผู้บริโภค ได้ประโยชน์และผู้ประกอบการก็ได้ประโยชน์ โดยคำสั่งซื้อดังกล่าว จะเป็นคำสั่งซื้อล่วงหน้าปี 2554

Oasis media co.,ltd
source: ดอกเบี้ยธุรกิจ
6-12 กันยายน 2553